นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสภากาชาดไทย พ.ศ. 2564
สภากาชาดไทย (เรียกว่า “เรา” หรือ “สภากาชาดไทย”) เป็นองค์กรสาธารณะกุศลระดับชาติมีการ ดำเนินการเพื่อมนุษยธรรม ตามหลักการกาชาดสากล เป็นองค์กรที่มีลักษณะเป็นพลวัต และนวัตกรรม โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่ความเป็นเลิศ เป็นไปตามคติทัศน์ ซึ่งเรามีพันธกิจหลักอยู่ 4 กลุ่ม ดังนี้
-
1. การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย
-
2. การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
-
3. การบริการโลหิต
-
4. การส่งเสริมคุณภาพชีวิต
เนื่องจากเรามีกิจกรรมและให้บริการต่างๆ อาทิ การรับบริจาค การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน การให้บริการทางการแพทย์ การรับสมัครอาสาสมัคร เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมและการให้บริการในสังกัดสภากาชาดไทย จะจัดให้มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนหลักการที่กำหนดไว้ตามนโยบายฯฉบับนี้ เว้นแต่บางกิจกรรมและการบริการอื่นใด ที่มีการกำหนดและประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งท่านสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ตามประกาศที่เว็บไซต์ หรือในเอกสารแยกตามประเภทกิจกรรมหรือบริการของเรา
1. ขอบเขตและการบังคับใช้
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้บังคับกับสภากาชาดไทย บุคลากรของสภากาชาดไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ เช่น การเก็บรวมรวบ บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย กับข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในปัจจุบัน หรือที่จะมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว
เรามีความมุ่งมั่นเสมอมาในการให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การล่วงละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล การควบคุมการใช้ข้อมูล และการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม นโยบายฉบับนี้ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากท่านในการดำเนินการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ใช้กันทั้งในและต่างประเทศ
2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 เราจะเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้ โดยท่านสามารถตรวจสอบวัตถุประสงค์ของการใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละกิจกรรมของสภากาชาดไทย ซึ่งท่านได้เข้าทำธุรกรรมใดๆกับเรา ตามช่องทางกิจกรรมดังนี้
-
2.1.1 งานบริการทางการแพทย์และโรงพยาบาล
-
2.1.2 งานบรรเทาทุกข์ อาสาสมัคร และจัดอบรม
-
2.1.3 ศูนย์รับบริจาค และให้การสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
2.2 ในกรณีที่เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดเป็นการเฉพาะนอกเหนือจากที่กล่าวมา เราจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบเป็นครั้งคราว และอาจขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณีๆไป โดยพิจารณาจากประเภทของข้อมูล
-
- ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการกำหนดข้อมูลบางประเภทให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และการเก็บรวบรวมจะทำได้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงอาจต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ดังนั้น เราจะดำเนินการเก็บข้อมูลอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และเราจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผลความจำเป็น รวมถึงอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว
-
- ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ (“บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรม”) เราจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมเฉพาะกรณีและตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในกรณีที่เรามีความจำเป็นจะต้องขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมสำหรับกิจกรรมใด เราจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเฉพาะตัวหรือ เป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพอันสมควร ซึ่งผู้เยาว์ดังกล่าวสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้
2.3 เราอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน เมื่อท่านได้มีปฏิสัมพันธ์หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของเรา อาทิ สมัครเป็นอาสาสมัคร ลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับเรา สนับสนุนการดำเนินงานของเราผ่านการบริจาค การซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในงานที่เราเป็นผู้จัดขึ้น การระดมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในนามของเรา การบอกเล่าเรื่องราวของท่านหรือให้คำแนะนำติชมของท่าน เข้าเป็นคู่สัญญากับเรา ยื่นเอกสารคำร้อง คำขอ ประเภทต่างๆ เข้าใช้บริการต่างๆ ของเรา เยี่ยมชมเพื่อทำความรู้จักเรา หรือการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV กล้องวีดีโอ กล้องถ่ายภาพนิ่งของเราเมื่อท่านเข้ามาในสถานที่ของเรา หรือในสถานที่ร่วมกิจกรรมของเรา เป็นต้น
2.4 เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้มาจากท่านโดยตรง เช่น จากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยโดยรัฐบาล และหน่วยงานทางวิชาชีพ สื่อ หรือ เอกสารเผยแพร่สาธารณะ เป็นต้น
2.5 เราอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามที่ท่านมีปฏิสัมพันธ์กับเราผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn, Line เป็นต้น โดยเราอาจใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของเรา ผ่านคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์พกพาของท่าน ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้อาจรวมถึงคุกกี้ เว็บบีคอน พิกเซลแท็ก และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยข้อมูลที่เราได้รับและเก็บรวบรวมนี้อาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนบุคคลของท่านและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มนั้นๆ รวมไปถึงข้อมูลการใช้งานหรือบริการของท่านบนเว็บไซต์ของเรา เช่น หน้าเพจที่ท่านเข้าเยี่ยมชมหรือใช้บริการ หรือลิงก์ต่างๆ ที่ท่านได้คลิกเพื่อเข้าถึงเนื้อหาส่วนอื่นของเว็บไซต์ หรือออกไปสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม เป็นต้น รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของเรา เช่น ประเภทระบบปฏิบัติการ ประเภทเบราว์เซอร์ การตั้งค่า ประเภทอุปกรณ์ที่ใช้ หรือข้อมูลประเภท Uniform Resource Locator, ที่อยู่ไอพี (IP Address) เป็นต้น
การใช้คุกกี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก จัดเก็บในลักษณะของไฟล์ข้อความ (Text file) ที่จะถูกส่งไปยังเบราว์เซอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลกลับมายังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่เจ้าของข้อมูลได้มีการเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ของเราจะส่งคุกกี้ไปยังเบราว์เซอร์ของท่าน และอาจมีการบันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าเว็บไซต์ ซึ่งคุกกี้มีประโยชน์สำคัญในการทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าต่าง ๆ บนอุปกรณ์ของท่านได้
ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกการบริการใด ๆ ของเรา ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์มออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม เราอาจระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูลอื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของเรา ทั้งนี้ ท่านอาจลบการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อยกเลิกการใช้คุกกี้ และยังคงใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อไปได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
ข้อมูลโดยตรงที่ได้รับจากการใช้บริการ Chula Care ของท่าน: เราจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้และ วิธีการใช้งานของท่าน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ
-
- ข้อมูลอุปกรณ์ที่ท่านใช้สำหรับการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน
-
- ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log)
-
- ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างท่านและผู้ใช้งานรายอื่น และ
ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกแอปพลิเคชัน ข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้แอปพลิเคชัน ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log)
-
- ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log)
-
- พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior)
-
- สถิติการเข้าแอปพลิเคชัน
-
- เวลาที่เยี่ยมชมแอปพลิเคชัน (Access Time)
-
- ข้อมูลที่ท่านค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในแอปพลิเคชัน และข้อมูลที่เราได้เก็บรวบรวมผ่านเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน
2.6 เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่ หลังจากนั้นเราจะลบและทำลายข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเรา โดยปกติระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะเท่ากับ 10 (สิบ) ปี เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น หรือหากมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น
2.7 เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยไม่มีฐานการประมวลผลข้อมูลโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยข้อมูลของท่านอาจถูกเปิดเผย หรือโอนไปยังองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน หน่วยงานของรัฐ หรือผู้ให้บริการภายนอก
ในกรณีที่เราจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลภายนอกจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ให้เกิดการสูญหาย การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ การดัดแปลง หรือการเปิดเผยและการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง
2.8 เราจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้รับข้อมูลในต่างประเทศ เฉพาะกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ทำได้เท่านั้น ทั้งนี้ เราอาจปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โดยเข้าทำข้อสัญญามาตรฐานหรือใช้กลไกอื่นที่พึงมีตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ และเราอาจอาศัยสัญญาการโอนข้อมูล หรือกลไกอื่นที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
3. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 เราจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) เพื่อป้องกันการเข้าถึงและเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอดคล้องกับการดำเนินงานของเรา และมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไป
3.2 เรากำหนดให้เจ้าหน้าที่ของเรา เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ เรายังมีการจัดจ้างผู้ให้บริการภายนอกเพื่อดำเนินการตรวจสอบสถานะให้แน่ใจว่า ผู้ให้บริการภายนอกที่เราทำการว่าจ้างจะมีการใช้มาตรการในการเก็บรวบรวม ประมวลผล โอนย้าย จัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเพียงพอในการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของเรา
3.3 เราจะมีการสอบทานและปรับปรุงมาตรการดังกล่าวตามความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานต่างๆ ของประเทศและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ดีแม้ว่าเรา จะทุ่มเท และใช้ความพยายามในการดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมกับการบริหารจัดการโดยบุคคล เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยข้อมูล มิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อาจไม่สามารถป้องกันความผิดพลาดได้ทุกประการ เช่น การปกป้องข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจากการถูกจู่โจมโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจได้ เจ้าของข้อมูลจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ติดตั้งซอฟต์แวร์ประเภท personal firewall เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการจู่โจม หรือโจรกรรมข้อมูล
4. การรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีสิทธิดังต่อไปนี้
4.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
4.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
4.3 สิทธิในการโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคล
4.4 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
4.5 สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
4.6 สิทธิในการคัดค้านการเก็บ การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
4.7 สิทธิในการถอนความยินยอม
5. การติดต่อกับเรา
หากท่านเห็นว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรไปที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราผ่านช่องทางที่ระบุไว้ด้านล่าง ทั้งนี้ เราจะตอบกลับมายังท่านภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนหรือปัญหาต่างๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างไรก็ตาม เราจะชี้แจงให้ท่านทราบ หากคำร้องขอใช้สิทธิของท่านเกิดข้อจำกัดบางประการ ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ หากท่านเห็นว่า เรามีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ส่งถึง: สภากาชาดไทย
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อาคารเทิดพระเกียรติ ชั้น 10 เลขที่ 1871 ถนนพระราม 4 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330 อีเมล dpo@redcross.or.th โทรศัพท์ 0 2256 4015
อีเมล : dpo@redcross.or.th โทรศัพท์ : 0 2256 4015
หมายเหตุ :
- โปรดระบุรายละเอียดการติดต่อของเจ้าของข้อมูล เมื่อมีการร้องเรียนหรือขอใช้สิทธิเรียกร้อง เพื่อให้เราสามารถติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
- เราอาจคิดค่าธรรมเนียมสำหรับบริการนี้ขึ้นกับดุลพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียว โดยอาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการตามคำขอภายใต้ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งนอกเหนือไปจากคำขอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
เราอาจมีปรับปรุงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาจะมีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน หากเรามีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจะปรับปรุงและแก้ไขนโยบายฉบับนี้ และแสดงบนเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงวิธีการที่เรา เก็บรวบรวม ใช้ จัดการ เปิดเผย และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล